วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

หนจะ้เป็นเด็ก เก่ง ดี และมีความสุขได้อย่างไร

เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้เก่ง ดี มีความสุข



คุณพ่อคุณแม่เป็นคนสำคัญมากครับที่จะช่วยฝึกฝนให้ลูกรักเป็นทั้งคนเก่งและคนดี แถมใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปพร้อมๆ กัน โดยผ่านกิจกรรมที่ทำร่วมกันด้วยความรักและความเข้าใจ
และการฝึกที่ดีนั้นควรเริ่มทำกันแต่เล็กนี่ล่ะครับ เพราะลูกจะได้รู้สึกว่าไม่ถูกบังคับ แต่เป็นสิ่งที่เขาจะต้องทำอยู่ แล้ว ซึ่งการฝึกตั้งแต่เล็กนั้นจะทำให้ฝึกได้ง่ายกว่าตอนโตครับ และการฝึกก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร โดยเริ่มจาก...

  • ใส่ใจให้เวลา...ช่วยลูกเป็นคนเก่ง
เรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญครับ นอกจากคุณพ่อคุณแม่ต้องมีเวลาให้กับลูกแล้ว ยังต้องให้เวลาลูกในการคิด การเรียนรู้ และทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองเพื่อเพิ่มความมั่นใจผ่านกิจวัตรประจำวันของลูก ได้แก่
  • ฝึกลูกช่วยตัวเองได้ตามวัย เช่น ให้ลูกกินข้าวเอง อาบน้ำแต่งตัวเองโดยที่พ่อแม่ให้เวลาและคอยดูอยู่ห่างๆ ฝึกให้ลูกเข้าห้องน้ำเองได้ และเปิดโอกาสให้เขาวิ่งเล่นโดยกำหนดขอบเขต และบอกให้ลูกรู้จักระมัดระวังตัวเองได้
  • ให้โอกาสลูกได้ลองทำอะไรด้วยตัวเองก่อน ถ้าทำไม่สำเร็จหรือยังทำได้ไม่ดี พ่อแม่ค่อยเข้าไปช่วย เช่น ให้ลูกลองช่วยทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าช่วยทำกับข้าว รดน้ำต้นไม้ กวาดบ้าน ให้ลูกได้ลองทำด้วยตัวเองก่อน อาจจะยังไม่ดี แต่ก็ให้ลูกได้เริ่มต้นที่จะทำอะไรด้วยตนเอง อย่าลืมให้กำลังใจและคำชมเมื่อลูกทำได้ดีด้วยครับ
  • พ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างในการคิด ด้วยการพูดกับลูกเมื่อมีการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เช่น เมื่อคุณแม่เลือกเสื้อผ้าให้ลูก ก็บอกเหตุผลให้ลูกรู้ว่าทำไมคุณแม่ถึงเลือกเสื้อตัวนี้ให้ เพราะว่าอากาศร้อน หนูจะได้ใส่บาย ไม่ร้อน
  • ใช้สิ่งที่พบเห็นประจำวันสอนลูกให้เรียนรู้ เช่น พาไปตลาดแล้วฝึกให้ลูกสังเกตความแตกต่างของสิ่งของ พืช ผัก ผลไม้ ฝึกให้ลูกนับเงินทอง เป็นต้น

  • ความดี ช่วยลูกประสบความสำเร็จ
ความดีเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูกรู้จักปรับตัวในสังคมและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
  • เริ่มต้นด้วย การเป็นแบบอย่างที่ดี คำพูดไม่สำคัญเท่าการกระทำครับ ต่อให้คุณพ่อคุณแม่สอนลูกทุกวันแต่คุณกลับไม่ทำซะเอง ลูกก็จะเลียนแบบคุณพ่อคุณแม่ที่กระทำเรื่องนั้นๆ เช่น สอนลูกให้เก็บรองเท้าให้เป็นระเบียบ คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องทำให้เป็นระเบียบเช่นกัน
  • ให้ลูกได้มีโอกาสช่วยเหลือคนอื่นๆ เช่น ช่วยเหลือเพื่อน ช่วยคุณครูถือ หรือช่วยพ่อแม่ดูแลน้อง ทำความสะอาดบ้าน และอย่าลืมให้กำลังใจและคำชมกับลูกด้วย
  • สอนเรื่องของวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย เช่น การมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ มีความเกรงอกเกรงใจ รู้จักกาลเทศะ และมีความกตัญญูรู้คุณ รวมถึงอาศัยหลักธรรมทางศาสนาเข้ามาสอนด้วย เช่น สวดมนต์ ทำบุญตักบาตร แผ่เมตตา เป็นต้น
  • เล่านิทานเป็นสื่อในการทำความดี เลือกนิทานที่สอนให้เห็นถึงการทำความดีและการเป็นเด็กไม่ดีจะมีผลเช่นไรบ้าง เพื่อให้ลูกซึมซับและรู้สึกว่าความดีเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต

  • มีความสุข...ต้องปรับตัวได้ดี
ระเบียบและกฎเกณฑ์อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องฝืนใจอยู่บ้าง เพื่ออยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข และถ้าคุณฝึกลูกตั้งแต่ยังเล็ก เขาจะไม่รู้สึกว่าโดนบังคับแต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำด้วยความเต็มใจ
  • ฝึกให้ลูกยอมรับกฎเกณฑ์ ในบ้าน ในสังคม อาจจะมีบางเรื่องที่ลูกไม่ชอบ แต่ก็ต้องทำ เช่น การจำกัดเวลาการดูทีวี ลูกอาจจะอยากดูมากกว่าเวลาที่กำหนด แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องใจแข็ง และให้เหตุผลของการจำกัดเวลา รวมทั้งต้องทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
  • ฝึกระเบียบในบ้าน ให้ลูกรู้จักระเบียบวินัยและทำอะไรเป็นเวลา เช่น กินอาหารให้เป็นที่เป็นทาง ตื่นนอนและเข้านอนให้เป็นเวลา เสื้อผ้าที่ใส่แล้วก็ต้องใส่ตะกร้าให้เรียบร้อย ของเล่นเล่นแล้วก็ต้องเก็บให้เป็นระเบียบ เป็นต้น
  • ฝึกระเบียบในสังคม เช่น สอนให้ลูกรู้จักการเข้าคิวรอคอย สอนให้ลูกข้ามถนนตรงทางม้าลายหรือสะพานลอย ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของโรงเรียน
  • ฝึกให้รู้จักควบคุมอารมณ์ของตัวเองและแสดงออกอย่างเหมาะสม เช่น เวลาที่ลูกอยากได้ของเล่น แล้วพ่อแม่ไม่ซื้อให้พ่อแม่ก็ต้องให้เหตุผลและเบี่ยงเบนความสนใจ เพื่อไม่ให้ลูกเอาแต่ใจร้องกรี๊ดๆ ในที่สาธารณะ เพื่อเรียกร้องความสนใจ
นอกจากการมีเวลาในการทำกิจกรรมเพื่อฝึกฝนให้ลูกเป็นคนเก่ง ดี มีสุข คุณพ่อคุณแม่ต้องมีความหนักแน่นและอดทน เพราะการสอนเด็กเล็กๆ ให้มีพฤติกรรมที่เหมาะสมนั้นต้องใช้เวลาและการปฏิบัติอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ ซึ่งจะเหมาะกับลูกมากกว่าการสอนด้วยคำพูดเพียงอย่างเดียว











ไม่มีความคิดเห็น: